GLIDE FORGED
เวดจ์ที่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่าง Pros Tour ของ PING และทีมเชียวชาญวิศกรรมการออกแบบของบริษัท ทำให้ Glide Forged wedges มีคุณภาพประสิทธิภาพดีเยี่ยม ด้วยลักษณะการออกแบบให้กะทัดรัดของใบเหล็ก ใช้วัสดุเหล็กกล้าผสมคาร์บอน 8620 ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนวล กัดลูกสปินส์สูง และความคุมการเล่นแต่งช้อตได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ในตัวคุณได้ด้วย การเลือกตกแต่งลวดลายต่างๆ ลงบนหลังใบเหล็กด้วยเทคนิคพิเศษ
Higher Spin for Control
ร่องใบเหล็กที่มีเทคโนโลยีการเซาะร่องที่แม่นยำการควบคุมรัศมีของขอบที่มีความใกล้เคียงตามที่กฎกำหนดมากที่สุดทำให้มีความคมกัดลูกได้รับการจดสิทธิบัตร สร้างอัตราการสปินส์ได้สูง ควบคุมทิศทางได้แม่นยำ และมีความทนทนมากยิ่งขึ้น
Soft, Assured Feel
หัวใบเวดจ์สไตล์เบลดวัสดุเหล็กคาร์บอน 8620 สร้างความรู้สึกนุ่มนวลอย่างได้อย่างน่าทึ่ง ครอบคลุมถึงรายละเอียดรวดลายด้านหลังใบที่สร้างรูปแบบที่แตกต่างได้อย่างแตกต่างน่าสนใจ ส่วนปลายของใบเหล็กเพิ่มการถ่วงน้ำหนักด้วยทังสเตนช่วยลดความผิดพลาด
Tour-Inspired Shape
จากแรงบันดาลใจและความต้องการของนักกอล์ฟในทัวร์ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ทางทีมออกแบบได้นำมาเพื่อพัฒนาการออกแบบในส่วนคอไม้ให้มีลักษณะคล้ายกับคอห่าน ส่งผลให้สามารถตีผ่านทั้งรัฟท์ และทรายได้อย่างราบรื่น
Designed for Versatility
ด้ายการออกแบบท้องใบเวดจ์ (Sold) ในส่วนขอบหน้าใบจากปลายถึงท้ายใบให้แนบชิดกับพื้นหญ้ามากยิ่งขึ้น สำหรับการเล่นช้อตรอบๆกรีนได้อย่างมีประสิทธภาพ หน้าไม้เรียบผ่านขบวนการกลึงด้วยเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง เพื่อรักษาความเร็วลูกให้มีความสม่ำเสมอ เพิ่มความแม่นยำให้มากขึ้น โดยเฉพาะส่วนของปลายไม้
Customize, Personalize
เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับเวดจ์ของคุณด้วยแบบกราฟิกที่ดูสะดุดตาสี่แบบ ได้แก่ รูปทรงบูมเมอแรง , ปิงแมน , ธงอเมริกัน หรือภูมิประเทศแอริโซนาในทะเลทราย (สามารถสั่งทำตามแบบและใช้เวลาการจัดทำจากต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากราคาเวดจ์ปกติ)
Stamping
นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดรูปแบบตราประทับ (Stamp) และสีตัวอักษร ได้สูงสุดสามตัวบนส่วนด้านหลังใบเหล็กหรือเลือกโลโก้ Mr. PING ตามตัวอย่าง (สามารถสั่งทำตามแบบและใช้เวลาการจัดทำจากต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากราคาเวดจ์ปกติ )
GLIDE 3.0
Glide 3.0 เวดจ์ ถูกออกแบบใหม่ในทุกส่วนประกอบโดยวิศวกรของ PING เน้นส่วนของการจับกริปเพื่อให้เกิดความถนัดซึ่งโดยรวมทำให้มีลูกมีสปินส์สูง ช่วยชดเชยความผิดพลาดมากขึ้นและให้ความรู้สึกนุ่มนวลและออกแบบให้น้ำหนักเบาลง โดยการนำเอาสไตล์การเล่นของผู้เล่นและรูปแบบเกมส์การเล่นมาผสมผสานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ด้วยความหลากหลายของฐานล่าง (Sold) รวมทั้งอีกหนึ่งตัวเลือก Eye 2 sand-wedge ที่สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบ ที่ฟิตเตอร์สามารถช่วยเลือกเวดจ์ให้ผู้เล่นได้เล่นได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพสนามหญ้าที่พบได้บ่อยที่สุด
Feel, Forgiveness
ในส่วนยางอีลาสโตเมอร์ที่สามารถปรับแต่งที่แทรกอยู่ด้านหลังใบเหล็กที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้เกิดความรู้สึกนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบด้านหลังใบเหล็กที่มีช่องใส่ด้านหลังใหม่และ CTP ที่ใหญ่กว่านั้นจะขยายการถ่วงน้ำหนักเพื่อเพิ่มค่า MOI และวางตำแหน่งศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงให้สูงขึ้นเพื่อให้ได้วิถีมุมลอยต่ำลง พร้อมกับการสปินส์ที่สูงมากขึ้นสำหรับการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น
Precision-Milled Grooves
ร่องใบเหล็กที่มีเทคโนโลยีการเซาะร่องที่แม่นยำการควบคุมรัศมีของขอบที่มีความใกล้เคียงตามที่กฎกำหนดมากที่สุดทำให้มีความคมกัดลูกได้รับการจดสิทธิบัตร โดยร่องสามารถสร้างอัตราการสปินส์ได้สูง ควบคุมทิศทางได้แม่นยำ และมีความทนทนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของใบเหล็กที่มีองศาสูง (54°, 56°, 58° & 60°) จะมีร่องเสริมพิเศษเพิ่ม ½” ที่ด้านล่างของใบเพื่อที่จะช่วยให้สปินส์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นรอบกรีน
Players-Style Look
Glide 3.0 เวดจ์ เป็นการผสมผสานรูปแบบการเล่นของผู้เล่นเข้ากับเทคโนโลยีการปรับปรุงเกม โดยเวดจ์มีรูปลักษณ์ที่ดูเกลี้ยงเกาสะอาดตาเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้เล่นในทัวร์ ซึ่งจะมีออฟเซ็ตที่ถูกเพิ่มเข้ามาตามความคิดเห็นของผู้เล่นในทัวร์เพื่อให้ดูดียิ่งขึ้น
Classic, Proven Performer
Eye2 เป็นสัญลักษณ์ที่ถูกออกแบบมาให้นักกอล์ฟสามารถบ่งบอกถึงการช่วยให้นักกอล์ฟตีผ่านอุปสรรค์ในทราย รวมถึงจุดที่ยากลำบากอื่นที่ช่วยให้พวกเขาสามารถเซฟสโตรกได้มานานหลายสิบปี การออกแบบทางวิศวกรรมตั้งแต่ลักษณะปลายใบจรดเท้าและรูปทรงเรขาคณิตที่แม่นยำเพื่อให้มั่นใจว่ามีความสม่ำเสมอและประสิทธิภาพการเล่นในระยะสั้น
Eye2 Sole Grind
Karsten Solheim’s เป็นผู้คิดค้นบุกเบิกเริ่มต้นของ Eye2 SW sole และส่วนหน้าใบ โดยมีการเปลี่ยนแปลงของโฮเซลที่แคบและมุมขอบแบบโปรเกรสซีฟ ที่มีประสิทธิภาพในบังเกอร์และการเล่นรอบกรีน
Standard Sole (SS) Grind
mid-bounc sole ส่วนของใต้ฐานที่กว้างปกติเหมาะกับนักกอล์ฟส่วนใหญ่ ออกแบบมาสำหรับผู้เล่นที่ต้องการตีในมุมระดับปานกลาง มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสภาพแวดล้อมทั้งหญ้าและทรายที่หลากหลาย
Wide Sole (WS) Grind
wide sole โซลช่วยชดเชยความผิดพลาดมากที่สุดในการตีผ่านพื้น เพราะส่วนของฐานกว้าง (Sole) มีลักษณะกลมและโค้งมนช่วยการกระดอนพื้นได้ดี แนะนำให้ใช้ถ้าหากคุณมีมุมการตีที่สูงชันและในสภาพพื้นหญ้าและทรายที่นุ่ม
Thin Sole (TS) Grind
thin-sole ฐานแคบ (Sole) ที่ช่วยให้เล่นลูกที่ต้องการกำหนดแม่นยำ เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีความแม่นยำ ฐานด้านล่างแคบเหมาะกับพื้นที่แน่นและที่มีความแข็ง มุมการเข้าปะทะที่บาง
Full Shots
เวดจ์ที่มุมองศาต่ำ (46 °, 50 °และ 52 °) จะมีร่องเวดจ์ ด้านข้าง 20 °และรัศมี. 005 “เพื่อประสิทธิภาพการกัดลูกเต็มรูปแบบที่ดีที่สุด.
Around the Green
เวดจ์ที่มุมองศาสูง (54 °, 56 °, 58 ° & 60 °) จะมีร่องเวดจ์ถูกผสมเข้ากับรัศมีขอบ .004 “ที่มีขอบชิด 28 °เพื่อให้หมุนได้มากขึ้นโดยเฉพาะรอบกรีน
Blueprint Iron
ผลิตจากเหล็กคาร์บอน 8620 ผ่านกระบวนการขึ้นรูปแบบฟอร์จ ด้วยการออกแบบรูปทรงสไตล์เบรดที่มาจาแรงบันดาลใจจากผู้เล่นในทัวร์ที่มีทักษะการเล่นที่สูง และการการควบคุมวิถีของลูกได้อย่างดีเยี่ยม ใบเหล็กมีขนาดสั้น ออฟเซ็ตน้อย(Offset) โซลแคบ (Sole) ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานทุกสภาวะของนักกอล์ฟอาชีพ ที่มีทักษะในการควบคุมแม่นยำในการทำสกอร์ได้อย่างมั่นใจ ส่วนปลายของใบเหล็กเพิ่มก้อนน้ำหนักทังสเตนที่เป็นสกรู ช่วยค่า MOI ลดความผิดพลาด
Forged 8620 Carbon Steel
กระบวนการผลิตที่ซับซ้อนด้วยวิธีฟอร์จขึ้นรูปแบบสี่ขั้นตอนต่อใบเหล็กหนึ่งชิ้น เพื่อเพิ่มความหนาแน่นภายในส่วนใบเหล็กและความทนทานต่อการสึกกร่อน ด้วยการกลึงหน้าใบเหล็กและร่องใบโดยมีการควบคุมและตรวจสอบความถูกต้องอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุด้วยเหล็ก คาร์บอน 8620 ผสานการออกแบบส่วนหัวใบเหล็กที่ให้ความสำคัญกับบริเวณปะทะลูกที่ทำให้เกิดเสียงและความรู้สึกที่ดี
Compact, Precise
ตามคำแนะนำของนักกอล์ฟระดับอาชีพ PING หลายคน ที่ต้องการเหล็กในทรงสไตล์เบรดที่มีขนาดและรูปทรงเพื่อให้เล่นได้ดีที่สุดในการแต่งช็อตและการควบคุมวิถีลูกได้ดีที่สุด , ซึ่ง Blueprint คือการผสานรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตาและขนาดที่มีความกะทัดรัดที่เหมาะสม พร้อมออฟเซ็ตน้อย(Offset) ใบเหล็กขนาดสั้นลง มุมสันบางลง
Narrower Sole
หัวใบเหล็กส่วนปลายใบถูกติดตั้งด้วยก้อนน้ำหนักถังสเตนเป็นสกรูผสานการทำงานในส่วนคอไม้ที่มีน้ำหนักใส่ไว้ภายในเพื่อการสวิงรักษาแนวหน้าใบให้สมดุลเหมาะสม ช่วยชดเชยความผิดพลาดหน้าใบในขณะปะทะลูกได้อย่างแม่นยำ ฐานใบเกลี้ยงมัน แคบลง ช่วยให้หัวไม้ผ่านพื้นผิวอุปสรรคทุกประเภทของสนามได้อย่างง่ายดาย ด้วยสารไฮโดรเพิร์ลโครเมี่ยม 2.0 ที่เคลือบหัวไม้ ช่วยให้หัวไม้ตีผ่านอุปสรรค์ได้ดีในขณะภาวะเปียกชื่น
Machined Face & Grooves
ทุกรายละเอียดจะมีเกณฑ์กำหนดและมีการคำนวณอย่างรอบคอบ มากกว่า 50 ขั้นตอนในกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพรวมถึงการกลึงหน้าใบเหล็กและร่องใบโดยมีการควบคุมและตรวจสอบความถูกต้องอย่างแม่นยำ 100%
ชุดเหล็ก G Le2 และ ไฮบริด นั้นมีน้ำหนักโดยรวมที่เบาขึ้น เพื่อให้ได้ความเร็วหัวไม้ในการสวิงที่เร็วขึ้นพร้อมกับการควบคุมที่ดีมากขึ้น หัวไม้ใช้เทคโนโลยี COR-Eye พร้อมกับส่วนบนสันใบด้านใต้ตัดขอบร่องลึกเพื่อให้หน้าใบมีความยืดหยุ่นสร้างแรงดีดให้ลูกทะยานลอยมากขึ้นให้ได้ระยะ และมีค่า MOI ที่สูงขึ้นอีก 10% พร้อมกับ หัวไม้ไฮบริดที่มีหน้าใบทำขึ้นจากวัสดุ CarTec 455 ที่มีความบางเพื่อสร้างความเร็วลูก มีการวางตำแหน่ง CG ให้ต่ำและลึกลงเพื่อช่วยเพิ่ม MOI สามารถสร้างวิถีลูกบอลให้สูง พร้อมช่วยชดเชยความผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งในชุดไฮบริดมีช่วงระยะห่างที่เหมาะสมให้ได้เลือกมากยิ่งขึ้นกว่าชุดก่อน
10% More Forgiving
ชุดเหล็ก G Le2 มีความแม่นยำและช่วยชดเชยความผิดพลาด พร้อมกับน้ำหนักโดยรวมของหัวไม้ที่มีความเบามากยิ่งขึ้น ใช้เทคโนโลยี COR-Eye พร้อมกับส่วนบนสันใบด้านใต้ตัดขอบร่องลึก เพื่อให้หน้าใบมีความยืดหยุ่นสร้างแรงดีดให้ลูกทะยานลอยสูงมากขึ้นให้ได้ระยะ น้ำหนักทังสเตนปลายใบช่วยเพิ่ม MOI มากขึ้น 10% สำหรับการชดเชยความผิดพลาดที่มากขึ้น พร้อมด้วยแผ่นยางรวดลายดีไซน์หลังใบใช้วัสดุหล่อขึ้นรูปผสมผสาน ติดด้านหลังโพรงเพื่อให้เกิดความรู้สึกมันใจและเสียงอันทรงพลัง มีหัวไม้ 6-9, PW, UW, SW
G710 มีเอกลักษณ์ที่ดูโดดเด่นด้วยความยาวของก้านกราไฟท์และความยาวของใบ ซึ่งช่วยชดเชยความผิดพลาดสูง เป็นคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาต่อเนื่องด้วยวัสดุหน้าใบเหล็ก maraging steel (เหล็กผลิตอากาศยาน) ผสานเข้ากับส่วนโครงสร้างของตัวหัวเหล็กที่ทำจากวัสดุ stainless steel เฉกเช่นเดียวกันกับการผลิตหัวไม้เพื่อสร้างแรงดีดให้ลูกกอล์ฟมีความเร็วมากขึ้น มีวิถีลูกที่ลอยสูงและทำให้ได้ระยะที่ไกลกว่า พร้อมกับลูกตกแล้วหยุดได้ทิศทาง ด้วยใบเหล็กมีขนาดยาวกว่า อีกทั้งยังให้ความรู้สึกที่ดีและเสียงสัมผัสขณะลูกกระทบที่ได้รับการปรับปรุงที่่ดีมากขึ้น
Faster Maraging Steel Face
หน้าใบเหล็กวัสดุ maraging steel หนึ่งในโลหะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ มีความแข็งแกร่งและช่วยสร้างแรงดีดส่งวิถีลูกลอยสูงทำให้ได้ระยะมากขึ้น อีกทั้งขบวนการผลิตที่เพิ่มความทนทานให้มากขึ้น ผ่านการกลึงความหนาของหน้าใบด้วยเครื่องจักรความแม่นยำสูงเพื่อทำให้หน้าใบเหมาะสมกับระยะห่างในชุดเหล็ก แต่ละเหล็กมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
5% Higher MOI
การใส่น้ำหนักเพื่อสร้างความสมดุลที่เหมาะสมที่สุดด้วยวัสดุทังสเตนความหนาแน่นสูง ในตำแหน่งที่ปลายใบและคอไม้ใกล้ส้นใบ โครงสร้างของใบเหล็กผลิตจากวัสดุ 17-4 stainless ช่วยเพิ่มแรงเฉื่อย MOI ได้มากขึ้นถึง 5% เมื่อเทียบกับโมเดลรุ่น G700 อีกทั้งการผลิตที่พิเศษช่วยให้การตีไม่ถูกตำแหน่งกลางใบสามารถชดเชยความผิดพลาด พร้อมให้ได้ระยะทางและความแม่นยำมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักกอล์ฟที่มีแฮนดิแคปในระดับกลางถึงสูง และนักกอล์ฟที่มีสวิงเวทช้า
Stealth, Hydropearl Finish
การเคลือบสารไฮโดรเพิร์ล hydropearl chrome หัวเหล็กให้ความเงาช่วยลดพื้นที่การเกาะของน้ำบริเวณหน้าใบเหล็กและร่อง เพื่อลดการแฉลบของลูกและสปินที่คงที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตีผ่านหญ้าและรัฟในสภาพที่เปียกชื้นได้อย่างดีเยี่ยม หัวเหล็กผ่านขบวนการเคลือบด้วย PVD สีดำ(เป็นการทำให้เกิดการระเหิดของโลหะด้วยประจุไฟฟ้า) ให้ความคงทนสูงต่อการสึกกร่อน สีดำทำให้ใบเหล็กดูมีขนาดกะทัดรัด ดุดันมากยิ่งขึ้น
Arccos Caddie Smart Grips (แถมฟรีอุปกรณ์ตามจำนวนเหล็ก)
สำหรับชุดเหล็ก G710 มาพร้อมกับ Arccos Caddy Smart Grip ที่สร้างขึ้นด้วยระบบเซ็นเซอร์ในตัวเพื่อบันทึกและวิเคราะห์ทุกช็อตที่ตีโดยอัตโนมัติเมื่อใช้คู่กับแอป Arccos Caddy ซึ่งท่านนักกอล์ฟจะได้รับแอปเพื่อทดลองใช้ฟรี 90 วัน เมื่อครบกำหนด 90 วันท่านนักกอล์ฟมารถสมัครสมาชิกรายปีเพียงปีละ $ 99.99 และเซ็นเซอร์สกรูอินฟรี เมื่อซื้อชุดเหล็ก ปิง G710 จำนวน 6 ชิ้นขึ้นไปโดยมีขนาดให้เลือก 3 ขนาด ตามความเหมาะสมกับขนาดของมือท่านนักกอล์ฟ ด้วยกริป Golf Pride 360 Tour Velvet/Arccos Caddie Smart Grip Aqua (-1/64″), White (Std.) and Gold (+1/32″)
Alta Distanza Black 40
ก้าน Alta Distanza Black 40 เป็นก้านกราไฟท์เป็นกรรมสิทธิ์ของ PING ที่ออกแบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก้านมาตรฐานสำหรับรุ่นนี้เป็นทางเลือกให้กับท่านนักกอล์ฟที่ต้องการระยะโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใดในชุดเหล็ก G710 สำหรับก้าน Alta Distanza Black 40 มีน้ำหนักที่เบาที่สุดเพียง 43 กรัม ช่วยเพิ่มความสูงของวิถีการลอยของลูก จึงเหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีสวิงที่ช้า
เหล็กรุ่นใหม่ล่าสุด G425 นี้ได้ออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญของ PING ที่เลือกให้หน้าใบเหล็กทำจากวัสดุ metal-wood-style โดยให้ความหนาของหน้าไม้แบบแปรผัน (VFT) ช่วยเพิ่มการยืดหยุ่นของหน้าใบ ส่งผลให้เพิ่มความเร็วของลูกให้ลอยสูงขึ้นและไกลขึ้น และหยุดบนกรีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะหายากสำหรับชุดเหล็กที่มุ้งเน้นระยะทางเป็นส่วนใหญ่
ในกระบวนการออกแบบสร้างหน้าใบเหล็กใหม่นี้ ได้พัฒนาขนาดหัวไม้ที่มีความกะทัดรัดมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับชุดเหล็กที่ช่วยลดความผิดพลาด ซึ่งจากส้นใบถึงปลายใบเหล็กมีขนาดที่สั้นกว่ารุ่น G410 แต่ให้ค่า MOI สูงกว่า 3% เนื่องจากการลดมวลจากหน้าเหล็กไปกระจายในจุดใหม่ ที่ปลายใบและคอของใบเหล็ก เพิ่มการกระจายน้ำหนักและทำให้การตีของลูกเกาะกลุ่มได้ดีขึ้น
การวิเคราะห์ขององค์ประกอบอย่างละเอียดถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการพัฒนาส่วนของด้านหลังใบเหล็ก ด้วยวัสดุผสมผสานรองรับแรงกระทบในส่วนของหน้าใบมากขึ้น ช่วยลดความกระด้าง ให้ความรู้สึกในการปะทะที่ยอดเยี่ยมและเสียงที่หนักแน่นให้ความมั่นใจ
Larger Flexing Zone
หน้าใบเหล็กมีแรงสปริงยืดหยุ่นสูง และมีจุด sweet spot ที่กว้างขึ้น จุดกำเนิดพลังแรงดีดส่งความเร็วของลูกเพื่อให้ได้ระยะทางที่ไกลขึ้นและวิถีการลอยที่สูงขึ้น โดยที่คุณสามารถตีและตกอยู่บนกรีนได้ดีพร้อมกับพัตต์ในจุดที่ใกล้กว่า
Toe/Hosel Weighting
โครงสร้างหน้าใบเหล็ก และช่องโพรงด้านหลังใบเหล็ก ช่วยเพิ่มความเร็วของลูกกอล์ฟมากขึ้น และมีการลดน้ำหนักที่จะเกิดขึ้นจากการกระจายน้ำหนักโดยรอบใบเหล็ก ด้วยการถ่วงน้ำหนักในส่วนปลายใบเหล็ก และ คอไม้ เพื่อสร้างจุดสมดุลเพิ่มค่า MOI ขึ้นถึง 3% ช่วยการชดเชยความผิดพลาดและความคงเส้นคงวาที่แน่นอนในการเข้าอิมแพค
Hyper 17-4 stainless steel that produces maximum flight distance
ด้วยววิธีการหล่อแบบดั้งเดิมของ PING ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ของเหล็ก 17-4 Stainless Steel ที่ไม่เป็นสนิม และพัฒนาหน้าไม้ที่ทำให้มีแรงยืดหยุ่นสูงสุด ส่วนรอบข้างของใบหน้าซึ่งบางลงประมาณ 22% ให้ระยะวิถีลูกลอยไกลสูงสุดแม้ในกรณีที่ตีพลาดไม่โดนจุดกึงกลาง (เปรียบเทียบศูนย์ใบหน้า / งานวิจัยของเรา)
Co-Molded Cavity Badge
ด้วยวัสดุ หลากหลายประกบด้านหลังขนาดมากถึง 54% ของส่วนหน้าใบทำให้เกิดคุณสมบัติช่วยลดการสั่นสะเทือน สร้างความรู้สึกและเสียงอันทรงพลังในการอิมแพค และหัวไม้เหล็กถูกเคลือบด้วยสาร HydroPearl 2.0 finish ช่วยทำให้การผิวเหล็กสามารถตีผ่านอุปสรรค์ที่เป็นหญ้ายาว (rough) ได้ลื่นไหล และปะทะลูกได้ดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
is different at its core featuring a 3 piece forged construction and tour-preferred styling offering a crisp, consistent and solid feel with added forgiveness. An aerospace-grade aluminium insert joined to a forged 1025 carbon steel body and forged 17-4 SS laser-cut face results in Ping’s most technologically advanced players iron to date. The aerospace-grade aluminium insert (1/3 the density of stainless steel) saves approximately 30 grams of material, allowing for tungsten toe and heel weights that elevate MOI to match that of the larger i210 iron, achieving a level forgiveness uncommon in a forged design. Alumi-Core also contributes to the stable, solid feel at impact. To reduce fliers in the short irons and preserve spin in the long irons, the face is engineered with Micro-Max™ grooves, combining steeper sidewalls with tighter spacing to allow four extra grooves. The Hydro-pearl 2.0 finish repels water for predictable, consistent performance from wet and dry conditions.
Ping i59 Irons Feature:
Arccos Grips Feature:
Ping Graphite Shafts Options:
ไฮบริดไช้นวัตกรรมใหม่ซึ่งเรียกว่า Facewrap Technology และ Spinsistency ผสานกันเพื่อให้ได้ระยะเพิ่มที่มากขึ้น และสปินที่คงที่ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทำให้มีช่องว่างของระยะที่เหมาะสมได้ในอุปกรณ์ทุกชิ้นที่อยู่ในถุงของนักกอล์ฟ ไฮบริดให้คุณสามารถปรับแต่งองศาหน้าไม้ได้มากขึ้นถึง 8 ตำแหน่ง (+ – 1.5˚) และมุมไลน์(เอียง) ให้วิถีลูกของคุณเป็นไปในทิศทางที่ต้องการ พร้อมประสิทธิภาพความบางและความยืดหยุ่นที่สมบูรณ์แบบด้วยวัสดุหน้าใบ maraging-steel สามารถสร้างความเร็วลูกกอล์ฟที่มากขึ้นและส่งแรงดีดลูกกอล์ฟให้ทะยานลอยสูงขึ้นได้ระยะจุดตกบนกรีน ด้วยหัวไม้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นคงและช่วยเพิ่มค่า MOI ในส่วนฐานล่างใกล้คอไม้และปลายไม้
3.5 Yards Longer Profile
หน้าไม้ผลิตจาก maraging-steel C300 ที่มีความแข็งแรง ผสานกับเทคโนโลยี Face-Wrap เพื่อสร้างความเร็วลูกและยะทางที่เพิ่มขึ้น
Customize Your Ball Flight
Trajectory Tuning 2.0 ผสานกับ hosel มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ด้วยคอไม้ที่สามารถปรับตำแหน่งองศาหน้าไม้ได้แปดตำแหน่ง (±1.5⁰) องศาและการปรับตำแหน่งมุมไลน์(เอียง) แบนราบ มากกว่ามาตรฐานถึง 3⁰ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลอยวิถีลูกที่นักกอล์ฟต้องการ
High MOI, Fast Face
หมุดทังสเตนความหนาแน่นสูงใช้ถ่วงน้ำหนัก วางในบริเวณส่วนใต้ฐานด้านหลังที่ลึก ช่วยกระจายน้ำหนักโดยรอบหัวไม้ ช่วยชดเชยความผิดพลาด พร้อมวัสดุหน้าใบฟอร์ด Maraging-steel C300 ตัวบอดี้ทำจากเหล็กที่มีความบางของ 17-4 stainless steel ด้วยความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ทำให้เพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟและได้ระยะทางที่เพิ่มขึ้น
Reduced Spin
ส่วนหน้าใบมีพื้นผิวที่ช่วยลดการสปิน และเส้นร่องหน้าใบทำสีขาวเพื่อช่วยการจัดวางตำแหน่งลูกกอล์ฟให้อยู่ในจุดปะทะได้อย่างชัดเจนในขณะจรด
ไม้แฟร์เวย์ G425 และไฮบริด ทั้ง 2 อย่างนี้ ใช้นวัตกรรมร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า Facewrap Technology และ Spinsistency ผสานกันเพื่อให้ได้ระยะเพิ่มที่มากขึ้น และสปินที่คงที่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทำให้มีช่องว่างของระยะที่เหมาะสมได้ในอุปกรณ์ทุกชิ้นที่อยู่ในถุงของนักกอล์ฟ
ด้วยการออกแบบ Facewrap ที่ทำให้หน้าเหล็กบางแต่มีความแข็งแรงสูง ให้ผสานเป็นส่วนหนึ่งของกระดองไม้และฐานด้านล่าง ทำให้ยืดหยุ่นในการสปีดเพิ่มความเร็วของลูกกอล์ฟ ให้ตีได้ระยะทางมากขึ้นและลูกลอยได้สูง
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำสปินที่สม่ำเสมอให้ดียิ่งขึ้น หน้าของไม้แฟร์เวย์และไฮบริดได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยความโค้งของหน้าไม้ซึ่งจะปรับเปลี่ยนการสปินตามการตี โดยส่วนใหญ่หากโดนจุดด้านล่างของหน้าไม้ จะทำให้มุมลดลงประมาณ 2.5º เพื่อทำให้สปินเป็นปกติและเพิ่มความเร็วของลูก ให้ได้ระยะทางที่มากขึ้น ด้วยการทดสอบของหุ่นยนต์ PING Man และผู้เล่นที่ทดสอบ เผยให้เห็นผลการทดสอบของระยะทางที่ดีขึ้นอย่างมากจาก Spinsistency โดยเฉพาะจุดการโดนลูกที่ต่ำ ซึ่งเป็นการตีพลาดที่พบบ่อยที่สุดสำหรับไม้แฟร์เวย์และไฮบริด
น้ำหนักทังสเตน ของแต่ละไม้ จะถูกวางในตำแหน่งที่จะเพิ่มค่า MOI ในหัวไม้สแตนเลส เพื่อช่วยชดเชยความผิดพลาดได้มากขึ้น ออกแบบให้บนกระดองไม้ มีจุดเล็งอยู่ 3 จุด เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟเห็นตำแหน่งของลูกให้ตรงกับสายตาของพวกเขามากที่สุด
Maraging Steel Face Wrap
หน้าไม้ผลิตจากเหล็ก Maraging ซึ่งเป็นวัสดุที่ มีความแข็งแรงสูงสามารถทำให้มีความบาง และการออกแบบหน้าไม้รูปแบบใหม่ ในส่วนใบหน้าไม้ทำจากวัสดุ C300 maraging steel (หนึ่งในโลหะผสมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก) เพื่อสร้างระยะทางที่ไกลขึ้น หน้าไม้ลดอัตราการหมุนของลูกที่ให้ความสม่ำเสมอทั่วทั้งหน้าไม้ ช่วยให้มีระยะทางที่เพิ่มขึ้น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างของหน้าไม้รูปแบบใหม่ที่มีความซับซ้อนทาให้อัตราการหมุนของลูกมีความสม่ำเสมอเพิ่มมากยิ่งขึ้น
Tungsten Weight
ด้วยน้ำหนักหมุดทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูง ในส่วนบริเวณปลายด้านหลังหัวไม้ ช่วยเพิ่มความเสถียรและชดเชยความผิดพลาดที่ดีเยี่ยม และถูกตัดให้บางที่สุดเพื่อให้โค้งงอในการดีดได้มากขึ้น เพิ่มความเร็วลูก พร้อมทะยานลอยสูง และได้ระยะทาง
8-Lobe Trajectory Tuning
ใหม่กับเทคโนโลยี Trajectory Tuning 2.0 ผสานกับ hosel มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ด้วย sleep คอไม้ที่สามารถปรับตำแหน่งองศาหน้าไม้ได้แปดตำแหน่ง (±1.5⁰) องศาและการปรับตำแหน่งมุมไลน์(เอียง) แบนราบ มากกว่ามาตรฐานถึง 3⁰ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลอยวิถีลูกที่นักกอล์ฟต้องการ
ในซีรีส์ G425 ไดรเวอร์ที่เป็นรุ่นหลักใช้ชื่อว่า Max ด้วยการออกแบบให้เพิ่มค่าความเฉื่อย (MOI) ในระดับสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของ PING และช่วยลดความผิดพลาดให้นักกอล์ฟได้มากสุด อีกทั้งยังมีโมเดลช่วยตอบสนองความต้องการ ของวงสวิงและเงื่อนไขต่างๆ สำหรับนักกอล์ฟ ด้วยรุ่น G425 LST (Low Spin Technology) และ G425 SFT (Straight Flight Technology)
ในรุ่น G425 Max (9º, 10.5º, 12º) เพื่อสร้างประสิทธิภาพหัวไม้ใหม่ให้ยอดเยี่ยมที่สุด วิศวกรของ PING ได้รวมเอาเทคโนโลยีสำคัญจาก G400 Max และ G410 Plus เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ค่า MOI ที่สูงสุด ในขนาดหัวไม้ 460cc ที่ส่วนใหญ่มาจากการลดน้ำหนักบนกระดองของไดร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเรีกว่า Dragonfly อีกทั้งหมุดทังสเตนที่มีขนาด 26 กรัม สามารถย้ายจัดวางในตำแหน่งที่แตกต่างกันของหมุดได้ ด้วยส่วนพื้นที่ที่วางหมุดจะมีช่วงที่แคบเล็กกว่า G410 Plus / LST ในการออกแบบเพื่อช่วยเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง และตีออกไปได้ไกลขึ้นโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ
MOI to the MAX
การปรับตำแหน่ง CG ยังคงรักษาทิศทางของลูกได้อย่างดีเยี่ยมทั้ง 3 ตำแหน่ง (neutral, draw or fade ) ช่วยลดความผิดพลาดและวิถึลูกได้ประสิทธิภาพสูงสุดค่า MOI เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นคือ 14% ในตำแหน่งน้ำหนักทั้ง 3 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับ G410 Plus โดยมีตำแหน่งของน้ำหนักทั้ง 3 จุดและทุกองศา มีค่า MOI รวม 10,000 (gm-cm²)
Movable Weight
เทคโนโลยีที่ผู้เล่นสามารถเลื่อนตำแหน่ง CG ด้วยหมุดถ่วงน้ำหนักจากทางด้านหลังของหัวไม้ ในสามตำแหน่งที่กำหนดไว้ เพื่อควบคุมวิถีของลูกกอล์ฟให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
Custom CG Locations
การปรับตำแหน่งปรับได้สามตำแหน่ง (Draw, Neutral, Fade) สำหรับหมุดน้ำหนักทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูงพิเศษ ที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของ CG ไปในตำแหน่งที่ต้องการเพื่อแก้ไขให้ได้ทิศทางการลอยของลูก ทางตรงปกติ(Neutral), ปรับให้ไปซ้าย(Draw) หรือปรับให้ไปขวา(Fade) เมือต้องการแก้ไขการตีด้วยการปรับในทิศทางที่ต้องการเช่น เมื่อนักกอล์ฟมีลักษณะการตีเฟด(Fade) ให้เลื่อนหมุดไปตำแหน่งดอร์ (Draw) เพื่อปรับให้ทิศทางปลายหัวไม้ปิดไวขึ้นลูกจะถูกแก้ไขจากเฟดมาตรงได้ และด้วยตำแหน่งของน้ำหนักจะช่วยให้ค่า MOI เพิ่มขึ้น สร้างความเร็วของลูกกอล์ฟยิ่งขึ้นและช่วยชดเชยความผิดพลาดในการตี ได้ทั้งระยะและวิถีตรงมากขึ้น
รุ่น G425 LST (9º, 10.5º) ออกแบบส่วนหัวไม้มีลักษณะเป็นทรงลูกแพร์มีขนาด 445cc เพื่อลดการสปินของลูกกอล์ฟอยู่ที่ 200 รอบต่อนาทีเมื่อเทียบกับ G410 LST และเมื่อเทียบกับ G425 Max ที่มีสปินอยู่ที่ 500-700 รอบต่อนาที ด้วยขนาดปริมาตรหัวไม้ที่เล็กของ LST ได้ใช้หมุดถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 17 กรัม พร้อมตำแหน่งที่สามารถปรับได้ 3 ตำแหน่ง (Draw, Neutral, Fade) ที่เหมาะสมกับวงสวิงที่สุด และวิถีลูกตามที่นักกอล์ฟต้องการ
Low-spin Design
ก้อนน้ำหนักทังสเตนที่มีความหนาแน่นสูงในตำแหน่งด้านหลังหัวไม้สามารถปรับย้ายได้ โดยที่ตำแหน่ง CG จะมีผลกระทบต่อทิศทางลูกตรงกลาง ไปยังทางซ้าย ทางขวาตามจุดวาง โดยตำแหน่ง CG อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนมาทางข้างหน้าเล็กน้อยมากกว่ารุ่น G425 MAX และ SFT ซึ้งทั้งสามตำแหน่ง (Draw, Neutral, Fade) นำไปสู่อัตราการหมุนที่ลดลงประมาณ 200 ถึง 400 รอบต่อนาที ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ก้าน และวิถีของมุมตีลอยของนักกอล์ฟ
8-Lobe Trajectory Tuning
Trajectory Tuning 2.0 ในไดรเวอร์ G425 คือเทคโนโลยี sleeve คอไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักเบา และด้วยการสวมก้านต่อเข้าผสานกับ hosel หัวไม้กอล์ฟซื่งเป็นการออกแบบใหม่ลดแรงต้านโดยใช้หลักพลศาสตร์ที่สามารถปรับตำแหน่งได้ 8 ตำแหน่งเพื่อให้ได้มุมลอย (± 1.5 °) และมุมไลน์(เอียง) ได้แบน กว่า 3°
High-Speed Face
ขนาดหัวไม้ โมเดล LST จะมีขนาดเล็ก ออกแบบรูปทรงแบบลูกแพร์ที่มีลักษณะที่กลมมากขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วหัวไม้ หน้าไม้แบบทัวร์ที่มีแนวสแควร์ ถึงเปิดออกเล็กน้อย ด้วยความเร็วลูกกอล์ฟที่ทำให้ได้ระยะไกลมากยิ่งขึ้น เกิดจากกระบวนการผลิตหน้าใบหัวไม้ด้วยวัสดุ FORGED T9S+ titanium นำมาผ่านกระบวนการด้วยความร้อนขึ้นรูปฟอร์จและผ่านการอบด้วยความร้อนอีกครั้ง ผ่านการกลึงด้วยความแม่นยำทำให้ได้หน้าใบที่บางและแข็งแกร่งตามที่กำหนดด้วยเครื่องที่มีความแม่นยำสูงสุดเพื่อหาค่าความโค้งงอแรงดีด ที่ถูกต้องตามกฏข้อบังคับของอุปกรณ์กอล์ฟ และด้วยการออกโครงสร้างภายในของหัวไม้เป็นแบบ rib structure วัสดุ Ti-8-1-1 ทำให้ได้เสียงและความรู้สึกที่ทรงพลังในขณะอิมแพค
Internal Dragonfly Technology
เทคโนโลยี Dragonfly ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรโดยอยู่ด้านในด้วยโครงสร้างกระดองที่บางเฉียบช่วยลดน้ำหนักส่วนบน และยังคงใช้เทคโนโลยี Turbulators ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความเร็วการสวิงเพื่อส่งแรงปะทะลูก ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยขนาดปริมาตรหัวไม้ 445cc
Standard grip with ARCCOS sensor
ใหม่กับ Arccos Caddy Smart Grip ที่สร้างขึ้นด้วยระบบเซ็นเซอร์ในตัวเพื่อบันทึกและวิเคราะห์ทุกช็อตที่ตีโดยอัตโนมัติเมื่อใช้คู่กับแอป Arccos Caddy ซึ่งท่านนักกอล์ฟจะได้รับแอปเพื่อทดลองใช้ฟรี 90 วัน เมื่อครบกำหนด 90 วันท่านนักกอล์ฟมารถสมัครสมาชิกรายปีเพียงปีละ $ 99.99
G425 SFT ไดร์ฟเวอร์ที่เหมาะสำหรับนักกอล์ฟ ที่มีวิถีลูกเฟด(ลูกเลี้ยวไปทางขวา) หรือมักตีเฉือน มาพร้อมขนาดหัวไม้ 460 cc SFT ที่องศาหน้าไม้ (10.5º) ถูกออกแบบด้วยวิศวกรรมให้แก้ปัญหาลูกเลี้ยวออกขวา เพื่อช่วยให้การตีของลูกกลับเข้ามาในแนววิถีตรงและอยู่บนแฟร์เวย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้หลักการวางน้ำหนักของทังสเตนขนาด 23 กรัม ที่ติดตั้งถ่วงน้ำหนักทางด้านหลังหัวไม้แต่ไม่สามารถเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งได้ ซึ่งจะมี CG จะอยู่ใกล้กับโคนไม้มากขึ้นเพื่อให้การเลี้ยวโค้งจากขวาไปซ้ายประมาณ 25 หลา เมื่อเทียบกับรุ่นมาตราฐาน G425 Max ที่มีสวิงเวทที่เบากว่า (D1) ช่วยให้หน้าใบเข้าปะทะลูกได้ดี แก้ไขวิถีเดินทางของลูก ให้ความมั่นใจได้ถึงวิถึลูกที่ลอยออกไปอย่างแม่นยำ
Corrects Fades & Slices
ด้วยการออกแบบเพื่อแก้ไขการตีเฟดและการตีเฉือน โดยการถ่วงน้ำหนักให้อยู่ด้านหลังสุดของหัวไดรฟเวอร์ โดยจุด CG อยู่ชิดต่ำสุดใกล้คอไม้
Easy to Aim
ไดรฟเวอร์ G425 SFT มี ขนาด 460cc ช่วยให้การเซ็ตอัพจรดหน้าไม้สร้างมุมมองที่ง่ายต่อการตี และด้วยคุณสมบัติรวมของ G425 MAX ที่มีค่า MOI สูงและการสร้างความเร็วลูกที่เร็วขึ้น
8-Lobe Trajectory Tuning
Trajectory Tuning 2.0 ในไดรเวอร์ G425 คือเทคโนโลยี sleeve คอไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักเบา และด้วยการสวมก้านต่อเข้าผสานกับ hosel หัวไม้กอล์ฟซื่งเป็นการออกแบบใหม่ลดแรงต้านโดยใช้หลักพลศาสตร์ที่สามารถปรับตำแหน่งได้ 8 ตำแหน่งเพื่อให้ได้มุมลอย (± 1.5 °) และมุมไลน์(เอียง) ได้แบน กว่า 3°
Fast Face
ด้วยความเร็วลูกกอล์ฟที่ทำให้ได้ระยะไกลมากยิ่งขึ้น เกิดจากกระบวนการผลิตหน้าใบหัวไม้ด้วยวัสดุ FORGED T9S+ titanium นำมาผ่านกระบวนการด้วยความร้อนขึ้นรูปฟอร์จและผ่านการอบด้วยความร้อนอีกครั้ง ผ่านการกลึงด้วยความแม่นยำทำให้ได้หน้าใบที่บางและแข็งแกร่งตามที่กำหนดด้วยเครื่องที่มีความแม่นยำสูงสุดเพื่อหาค่าความโค้งงอแรงดีด ที่ถูกต้องตามกฏข้อบังคับของอุปกรณ์กอล์ฟ และด้วยการออกโครงสร้างภายในของหัวไม้เป็นแบบ rib structure วัสดุ Ti-8-1-1 ทำให้ได้เสียงและความรู้สึกที่ทรงพลังในขณะอิมแพค
Internal Dragonfly Technology and Turbulators
การออกแบบหัวไม้ฝาบนกระดองที่ประสบความสำเร็จในรุ่น G410 “เป็นรอยพับจีบ” ที่ยังคงประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี Dragonfly ที่ให้ฝากระดองหัวไม้มีความบางเบาแต่ยังคงความแข็งแกร่ง และยังคงใช้เทคโนโลยี Turbulators ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มความเร็วการสวิงเพื่อส่งแรงปะทะลูก ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยขนาดปริมาตรหัวไม้ 460cc
Standard grip with ARCCOS sensor
ใหม่กับ Arccos Caddy Smart Grip ที่สร้างขึ้นด้วยระบบเซ็นเซอร์ในตัวเพื่อบันทึกและวิเคราะห์ทุกช็อตที่ตีโดยอัตโนมัติเมื่อใช้คู่กับแอป Arccos Caddy ซึ่งท่านนักกอล์ฟจะได้รับแอปเพื่อทดลองใช้ฟรี 90 วัน เมื่อครบกำหนด 90 วันท่านนักกอล์ฟมารถสมัครสมาชิกรายปีเพียงปีละ $ 99.99
สาขา1 สนามไดร์ฟช่องนนทรี ชั้น 1-2 (ขวามือสุด)
Rama 3 Driving Range สนามฝึกซ้อมกอล์ฟพระราม 3
.
Line สาขา พระราม3
สาขา 2 สาขาเสรีกอล์ฟคลับ 1991
66 หมู่ 7ถนน บรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
.
Link Line สาขาเสรี
BUSINESS HOURS
วันธรรมดา 08:30 - 22:30 น.
CALL US
083 977 3987 (สาขาพระราม3)
061 835 8558 (สาขาตลิ่งชัน)
COPYRIGHT 2021 REGENESIS GOLF ACADEMY CO.,LTD ALL RIGHTS RESERVED|PRIVACY POLICY|WEB BY